
แบตเสื่อม อาจจะมาจากเรื่องเล็กๆที่เรามักมองไม่เห็นอย่างการ ชาร์จแบตในชีวิตประจำวันแบบที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ ซึ่งการชาร์จแบตนั้นก็ขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น การใช้งานแบบไหน, วิธีการชาร์จ, และประเภทของแบตเตอรี่ที่ใช้ แล้วแบบไหนทำให้แบตเสื่อม ?
การชาร์จโทรศัพท์และผลกระทบต่อแบตเตอรี่
การชาร์จจนเต็มตลอดเวลา: โทรศัพท์ส่วนใหญ่จะใช้ แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Li-ion) หรือ ลิเธียม-โพลีเมอร์ (Li-Po) ซึ่งมีความสามารถในการชาร์จได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าจะเสียบชาร์จทิ้งไว้หลังจากชาร์จเต็มแล้ว แต่การชาร์จจนเต็ม 100% แล้วปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น เพราะเมื่อแบตเตอรี่ชาร์จเต็มที่ 100% จะมีแรงดันไฟฟ้าสูงซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเครียดและเสื่อมสภาพได้
การชาร์จในอุณหภูมิสูง: หากชาร์จโทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนเกินไป เช่น ขณะชาร์จทิ้งไว้นานๆ บนอุปกรณ์ที่ถูกแสงแดดหรือในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง จะทำให้ แบตเสื่อม ได้เร็วขึ้น อุณหภูมิสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว
การชาร์จที่ระดับแบตเตอรี่ต่ำเกินไปหรือเกิน 100%: หากคุณชาร์จโทรศัพท์จนแบตเตอรี่ถึง 100% หรือปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 20% อยู่บ่อยๆยิ่งแบตใกล้หมดแล้วก็ยังนั่งเล่นหวยยี่กีอยู่ไม่ยอมเอาไปชาร์จ ก็อาจทำให้แบตเสื่อมเร็วกว่า โดยทั่วไปแล้วการชาร์จที่ระดับ 20%-80% ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
ทริคการชาร์จแบตเตอรี่ให้ดี ไม่ให้แบตเสื่อม
- หลีกเลี่ยงการชาร์จจนเต็ม 100% และไม่ควรให้แบตเตอรี่หมดเกิน 20% ทุกครั้งที่ชาร์จ
- ใช้ชาร์จเร็วอย่างมีสติ หากไม่จำเป็นจริงๆ ควรใช้ที่ชาร์จปกติ เพราะชาร์จเร็วจะทำให้เกิดความร้อนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานของแบต
- ไม่ชาร์จทิ้งไว้ในที่ร้อน: พยายามชาร์จโทรศัพท์ในที่เย็นและหลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ในรถที่จอดอยู่กลางแดด
- ถอดชาร์จเมื่อแบตเต็ม: หากสามารถทำได้ ควรถอดสายชาร์จออกเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บไฟในระดับสูงตลอดเวลา
ชาร์จเต็มแล้วดึงปลั๊กออก หรือชาร์จต่อแบบไหน แบตเสื่อม กว่ากัน
เมื่อ แบตเตอรี่ชาร์จเต็ม 100% แล้ว การเลือกว่าจะ ดึงปลั๊กออกทันที หรือ ชาร์จทิ้งไว้ ทั้งสองวิธีนี้มีข้อดีและข้อเสียตามลำดับ แต่โดยทั่วไปแล้ว การดึงปลั๊กออกทันที จะถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
- ดึงปลั๊กออกทันทีเมื่อแบตเต็ม
- ข้อดี: เมื่อแบตเตอรี่ชาร์จถึง 100% ระบบในโทรศัพท์จะหยุดการชาร์จโดยอัตโนมัติและไม่ให้เกิดการชาร์จต่อเนื่อง (ป้องกันการเก็บไฟเกิน 100%) ซึ่งช่วยลดความเครียดให้กับแบตเตอรี่
- ข้อเสีย: หากคุณไม่ได้อยู่ใกล้โทรศัพท์ในขณะชาร์จจนเต็ม อาจไม่สะดวกในการดึงปลั๊กทันที
- ชาร์จทิ้งไว้หลังจากแบตเต็ม
- ข้อดี: ส่วนใหญ่แล้ว โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะมีระบบ ป้องกันการชาร์จเกิน ซึ่งจะหยุดการชาร์จเมื่อแบตเต็ม 100% แต่จะคงการเชื่อมต่ออยู่ ถ้าแบตลดลงไปถึงระดับต่ำกว่า 100% ระบบจะเริ่มชาร์จใหม่
- ข้อเสีย: การปล่อยให้โทรศัพท์ชาร์จทิ้งไว้จะทำให้แบตเตอรี่ยังคงอยู่ที่ 100% หรือใกล้เคียงกับ 100% ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเครียดในระยะยาวได้ โดยเฉพาะหากอุณหภูมิร้อนเกินไปหรือถ้าชาร์จทิ้งไว้นานๆ
เหตุผลที่การ ดึงปลั๊กออกทันที ดีที่สุด
แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Li-ion) ซึ่งเป็นประเภทที่ใช้ในสมาร์ทโฟนจะมีการเสื่อมสภาพเมื่อถูกเก็บไฟไว้ที่ 100% เป็นเวลานานๆ แม้ว่าโทรศัพท์จะหยุดการชาร์จเมื่อแบตเต็ม แต่การเก็บไฟในระดับสูงสุดก็ยังทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นในระยะยาว
สรุป
การชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมทันที แต่การชาร์จบ่อยๆ จนเต็ม 100% หรือละเลยสภาพแวดล้อมที่ร้อนเกินไปอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นในระยะยาว วิธีการที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกือบ 0% หรือเต็ม 100% เป็นประจำ และการชาร์จในที่เย็นจะช่วยรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ดียิ่งขึ้น
การดึงปลั๊กออกทันที เมื่อแบตเตอรี่เต็มถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหากคุณต้องการรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้ยาวนาน เพราะช่วยลดความเครียดที่เกิดจากการชาร์จเกิน 100% หรือการเก็บไฟที่ระดับสูงตลอดเวลา หากคุณไม่สามารถดึงปลั๊กออกทันที การใช้ ระบบชาร์จโดยอัตโนมัติ ที่มีในสมาร์ทโฟนสมัยใหม่ก็ยังช่วยป้องกันการชาร์จเกินได้ในระดับหนึ่ง